บทความ

รีวิวภาพยนตร์ Predator: Badlands (2025) – การกลับมาของนักล่าจากต่างดาว ท่ามกลางดินแดนเถื่อนที่ไร้ความปราณี

ภาพยนตร์ Predator: Badlands (2025) คือบทใหม่ของแฟรนไชส์ในตำนานที่แฟนหนังแอ็กชัน-ไซไฟทั่วโลกต่างรอคอย หลังจากภาคก่อนหน้า Prey (2022) ประสบความสำเร็จในการชุบชีวิตนักล่าเงียบอย่าง Predator ให้กลับมาอยู่ในใจคนดูอีกครั้ง คราวนี้ ทีมผู้สร้างได้นำเรื่องราวไปสู่ฉากหลังที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง กับ “Badlands” หรือดินแดนรกร้างอันแสนโหดร้ายของอเมริกาในยุคหลังโลกล่มสลาย ที่ความเป็นมนุษย์ต้องต่อสู้กับสัญชาตญาณสัตว์เพื่อเอาชีวิตรอด — และท่ามกลางความไร้มนุษยธรรมนี้ นักล่าจากต่างดาวก็มาถึง พล็อตเรื่อง: ความเงียบงันในดินแดนเถื่อน ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย Predator: Badlands ดำเนินเรื่องในอนาคตอันใกล้ที่โลกเข้าสู่ภาวะ “โลกร้าง” เนื่องจากภัยธรรมชาติ การแย่งชิงทรัพยากร และสงครามนิวเคลียร์ มนุษย์กระจัดกระจายอยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ แต่ละชุมชนพยายามสร้างระบบกฎหมายของตัวเอง แต่ไร้ซึ่งศีลธรรม ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งของอเมริกา กลุ่มคนเร่ร่อนที่มีอดีตลึกลับนำโดย “มาลิญา” หญิงแกร่งอดีตทหารหน่วยรบพิเศษ (รับบทโดย Zendaya ) ได้ตั้งค่ายพักชั่วคราวเพื่อเอาชีวิตรอด แต่แล้วก็เริ่มเกิดเหตุการณ์สยอง ผู้คนถูกฆ่าอย่างไร้ร่องรอย ...
รูปภาพ
  บทบาทในธรรมชาติ การปรับสมดุลความชื้น : น้ำค้างช่วยเพิ่มความชื้นให้กับดินและพืชในช่วงที่อากาศแห้ง ช่วยให้รอดพ้นจากความแห้งแล้ง : พืชบางชนิดในพื้นที่ที่มีน้ำฝนน้อยอาศัยน้ำค้างเป็นแหล่งน้ำสำคัญ ส่งเสริมการผสมเกสร : น้ำค้างสามารถช่วยในการแพร่กระจายของเกสร โดยหยดน้ำจะช่วยให้เกสรติดกับแมลงหรือสายลม น้ำค้างบนดอกไม้ไม่เพียงแต่เพิ่มความงดงามและมีกลิ่นหอมอย่าง กำยานธรรมชาติ ให้กับธรรมชาติ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การสังเกตและชื่นชมความงามของน้ำค้างบนดอกไม้สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เราเห็นคุณค่าและความสำคัญของธรรมชาติในชีวิตประจำวัน